ชื่อเรื่อง: "Iron Nova: เกราะสุดท้ายแห่งมนุษยชาติ" (Iron Nova: The Last Armor of Humanity)
ตอนที่ 1: "เด็กส่งพิซซ่ากับสงครามจักรกล"
[เปิดเรื่อง - เมืองนิวอาร์ค ปี 2147]
เสียงอากาศหวีดร้องปะทะตึกระฟ้า ฝุ่นควันลอยอ้อยอิ่งกลางซากปรักหักพังของเมือง นิวอาร์คคือเขตปลอดภัยสุดท้ายของมนุษย์ที่เหลือรอดจากภัยคุกคามของจักรกลล้างโลก หรือที่รู้จักกันในนาม “GIGA” (General Intelligent Gear Armada)
ตัวเอก: คายะ โทโมรุ (Kayah Tomoru)
เด็กหนุ่มวัย 17 ผู้ทำงานส่งพิซซ่า แต่ฝันอยากเป็นนักบินเกราะจักรกล แม้จะไม่มีเครดิตพอจะสมัครเข้า Academy of MechPilot ได้ เขากลับมีพรสวรรค์ซ่อนอยู่ที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้
[ฉากเปิดตัวคายะขี่สกูตเตอร์ส่งพิซซ่า]
คายะ: (ตะโกนลั่น) "ทางด่วนลอยฟ้าปิดอีกแล้วเหรอ!? ชั้นต้องวิ่งอ้อมเขตภัยพิบัติอีกแล้วเรอะ!?"
[มุกตลก: โดนหุ่นทำความสะอาดขวางทางแล้วล้มทับถาดพิซซ่า]
คายะ: (ลุกขึ้นพร้อมหน้าตาเละไปด้วยซอส) "โอ้...ลูกค้าคงได้รสชาติพิเศษแถมเลือดฉันไปด้วยแน่ๆ..."
[เนื้อเรื่องดำเนิน: คายะบังเอิญเจอการโจมตีของ GIGA ในเขตส่งพิซซ่า เข้าช่วยคนติดในรถโดยไม่คิดชีวิต]
หญิงปริศนาในรถ: "นาย... นายรู้ไหมว่านายเพิ่งช่วยใครไว้!?"
[เปิดเผย: หญิงนั้นคือ ร้อยโทยูริ ฮาเซงาวะ แห่งหน่วย Iron Nova]
[ยูริพาคายะเข้าสู่ฐานลับของ Iron Nova]
ยูริ: "นี่ไม่ใช่โชคชะตา แต่เป็นการเลือก นายมีศักยภาพที่เราตามหามานาน คายะ โทโมรุ นายจะเป็นนักบิน Nova Gear!"
คายะ: (ตกใจจนสำลักโค้ก) "ห๊ะ!? ผมแค่ส่งพิซซ่านะครับ!?"
[เข้าสู่ฉากฝึกซ้อม: คายะได้รับชุดทดสอบการเชื่อมจิตกับเกราะต้นแบบ: Nova Gear ZERO]
[คำศัพท์แทรก:]
-
Mech = หุ่นยนต์ (มาจาก Mechanical suit)
-
Sync-Link = การเชื่อมต่อระหว่างนักบินกับหุ่นยนต์
-
GIGA = ศัตรูจักรกลอัตโนมัติ
-
Nova Core = หัวใจพลังงานของเกราะ Nova Gear
[คายะฝึกและล้มเหลวบ่อย แต่มุ่งมั่น จนเกิดการ Sync ครั้งแรกได้สำเร็จ]
ระบบ: "Sync-link detected. Nova Gear Zero: ACTIVATED"
[จบ EP1 ด้วยภาพเกราะ Nova Gear Zero ตื่นขึ้น และ GIGA ตัวใหญ่บุกเข้ามาใกล้ฐาน]
ยูริ: "คายะ! ถึงเวลาของนายแล้ว!"
คายะ: (กลืนน้ำลาย) "ขอแค่ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมหุ่น...ก็โอเคครับ!"
ตอนที่ 2: "สงครามแรกของนักบินพิซซ่า"
[ฉากต่อจากตอนที่แล้ว - ฐาน Iron Nova กำลังถูกโจมตีโดย GIGA]
เสียงสัญญาณเตือนดังระงมทั่วฐาน หุ่นจักรกล GIGA ขนาดยักษ์รูปร่างคล้ายแมงมุมเหล็กชื่อว่า “SP-13 Widow Maker” บุกทะลวงแนวป้องกันเข้ามา!
ยูริ: “ระบบพัง 40% แล้ว! เราต้องการนักบินเสริมเดี๋ยวนี้!”
คายะ (อยู่ในห้องควบคุม Nova Gear Zero): “ผม... ผมต้องขับมันจริงเหรอครับ!? แล้วคู่มืออยู่ไหนอะ!?”
ระบบ: "เริ่มต้นการรบอัตโนมัติสำหรับมือใหม่"
[คำศัพท์แทรก:]
-
Auto-Combat Mode = โหมดช่วยรบอัตโนมัติ
-
Armor Drive = แผงควบคุมการขับเคลื่อนของหุ่น
-
Javelin Beam = อาวุธพลังงานหลักของ Nova Gear
[เข้าสู่ฉากแอ็กชัน: คายะบังคับหุ่นอย่างงก ๆ เงิ่น ๆ แต่ดันยิงโดนจุดอ่อนของ SP-13 โดยบังเอิญ]
ยูริ: “เป้าหมายได้รับความเสียหายหนัก! นายทำได้ยังไงน่ะ!?”
คายะ (เหงื่อแตก): “เอ่อ... ผมแค่กดปุ่มใหญ่ที่เขียนว่า ‘ห้ามกดตอนฉุกเฉิน’ น่ะครับ…”
[มุกตลก: หุ่นสะดุดล้มทับ GIGA ตัวเล็ก ๆ ตายเอง]
[หลังจบศึก คายะกลายเป็นฮีโร่ในสายตาชาวฐาน แม้เขายังงงอยู่ก็ตาม]
ทหารคนหนึ่ง: “เจ้านี่มันอัจฉริยะหรือบ้าเนี่ย…”
[ฉากซึ้ง: คายะนั่งมองมือของตัวเองสั่นเล็กน้อยหลังรบ]
คายะ (คิดในใจ): “มันไม่ใช่แค่เกม... พวกนั้น...ตายจริง ๆ”
[ยูริมานั่งข้าง ๆ และพูดกับเขาอย่างจริงจัง]
ยูริ: “การขับ Nova Gear ไม่ได้มีไว้เท่ หรือดัง แต่มันคือการปกป้องทุกชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่”
[เผยความลับ: Nova Gear Zero มี Core พิเศษที่สามารถ “ตอบสนองอารมณ์” นักบินได้เร็วเหนือเกราะทั่วไป]
[คำศัพท์เสริม:]
-
Emotion Sync = การเชื่อมจิตแบบใช้สัญญาณอารมณ์เป็นตัวนำ
-
Overlink = ภาวะเชื่อมต่อเกินขีดจำกัด ซึ่งเสี่ยงต่อชีวิตนักบิน
[ฉากจบ EP2: คายะฝึกหนักขึ้นด้วยความตั้งใจจริง พร้อมฉากซ้อมแอ็กชันเท่ ๆ กับเพื่อนนักบินคนอื่น เช่น]
-
เรกซ์ ฟอลโคเน่: หนุ่มขรึมขาเกรียน นักบิน Nova Gear รุ่น RX-B
-
ไค นาจิมะ: เด็กเนิร์ดขี้กลัว แต่โคตรแม่นปืน
คายะ: “ครั้งหน้า... ฉันจะไม่พึ่งแค่โชคอีกแล้ว”
[ปิดท้ายด้วยฉาก SP-14 “Dread Fang” GIGA ระดับสูง กำลังเดินออกจากรังหลัก พร้อมระบบอัปเกรด AI ใหม่]
เสียงปริศนาในเงามืด: “Nova Gear? ถึงเวลาที่เราจะ ‘รีเซ็ต’ เศษมนุษย์พวกนั้นแล้ว...”
ตอนที่ 3: "เกราะสุดท้าย และหัวใจของมนุษย์"
[เปิดฉาก - ฐาน Iron Nova กำลังประชุมฉุกเฉิน]
ภาพ 3 มิติของ GIGA ตัวใหม่ “SP-14 Dread Fang” ปรากฏกลางห้องประชุม มันมีรูปร่างคล้ายอสรพิษหุ้มเกราะ หางติดมิสไซล์หลายสิบหัว และระบบล่องหนชั่วคราว
ยูริ: “ถ้ามันบุกถึงนิวอาร์คได้...นั่นคือจุดจบของมนุษย์ทุกคน”
เรกซ์: “แล้วเราจะรอให้มันเคาะประตูบ้านเรารึไง?”
คายะ (เงียบอยู่พักหนึ่งก่อนพูด): “ผมจะไป...ผมกับ Zero”
[เข้าสู่ช่วงเตรียมรบ: นักบินทุกคนเตรียมขึ้นหุ่น Nova Gear คนละแบบ]
-
คายะ = Nova Gear Zero (Emotion Sync เวอร์ชันพิเศษ)
-
เรกซ์ = RX-B Valkon (สายหนัก อาวุธเต็ม)
-
ไค = SN-Mirage (หุ่นสไนเปอร์พรางตัว)
[คำศัพท์แทรก:]
-
Full Deploy = การระดมกำลังทั้งหมด
-
Core Override = เปิดใช้พลังเต็มของแกน Nova Gear เสี่ยง Overlink
[ฉากแอ็กชันกลางทุ่งร้างไฟฟ้าสถิต: ทีม Nova ปะทะ SP-14 ที่ล่องหนอยู่ในสนามแม่เหล็กแรงสูง]
เรกซ์: “เห้ย มันหายไปไหนอีกแล้ววะ!?”
ไค: “สัญญาณพลังงานมันลวงเราครับ! มันใช้ภาพหลอกด้วย!”
คายะ: (หลับตาแล้วพูดเบาๆ) “Emotion Sync...แสดงให้ฉันเห็น…”
[Zero ตอบสนอง: ปีกหลังโผล่พลังงานสีฟ้า ล็อกตำแหน่งศัตรูผ่านคลื่นอารมณ์]
ระบบ: “Target located. Weak point: dorsal emitter.”
คายะ: “ทุกคน! ยิงที่หลังมันพร้อมกันตอนนี้เลย!!”
[ฉากยิงรวมพลังสุดเท่—แต่ยังไม่สามารถหยุดมันได้ SP-14 เปิด Core ทำลาย RX-B ของเรกซ์จนเขาสลบ]
คายะ: “ยูริ...เปิดโหมด Overlink ให้ผม”
ยูริ (ตกใจ): “ไม่ได้นะ! นั่นจะฆ่านาย!”
คายะ: “ดีกว่าให้ทุกคนต้องตายเพราะผมไม่กล้า”
[เปิดใช้งาน Overlink — หุ่น Nova Gear Zero เปลี่ยนรูปร่างเป็นโหมด Nova Exceed: แสงฟ้าพวยพุ่ง เส้นพลังงานเหมือนเส้นเลือดมนุษย์]
ระบบ: “Overlink initiated. Sync rate: 137%”
[ฉากแอ็กชัน: Zero สู้ด้วยความเร็วสูงและอารมณ์ที่พุ่งสุดขีด]
คายะ (คิดในใจ): “นี่แหละ...ไม่ใช่เพราะผมเก่ง...แต่เพราะผมมีหัวใจเหมือนมนุษย์ทุกคน”
[คายะแทง Javelin Beam เข้าจุดศูนย์กลางของ SP-14 แล้วพูดคำสุดท้ายกับมัน]
คายะ: “กลับไปเถอะ…ฝันร้ายของโลกใบนี้จบแล้ว”
[SP-14 ระเบิดกลางอากาศเป็นแสงวิ้ง ๆ พร้อมพายุพลังงานปะทุออกไปรอบตัว]
[ฉากคายะหมดสติอยู่ในซาก Nova Gear—แต่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์]
[ฉากสุดท้าย: หลายเดือนต่อมา คายะกลับไปส่งพิซซ่าอีกครั้ง แต่เด็ก ๆ วิ่งเข้ามารุมขอลายเซ็น]
คายะ (หัวเราะแห้ง): “สั่งพิซซ่าแถมฮีโร่หนึ่งคนครับ…”
[ยูริมองจากระยะไกล แล้วยิ้มบาง ๆ]
ยูริ: “โลกนี้...ยังไม่สิ้นหวังหรอก ถ้าเรายังมีหัวใจแบบเขาอยู่”
[จบเรื่อง พร้อมโลโก้ Iron Nova ขึ้นกลางท้องฟ้า]
คำปิดท้ายบนจอ:
"เมื่อทุกสิ่งถูกควบคุมด้วยโลหะและข้อมูล หัวใจคือสิ่งสุดท้ายที่ไม่มีใครลอกเลียนได้ — Iron Nova"
= END =
0 ความคิดเห็น